การตอบสนองความต้องในการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น ลดปัญหาพลังงานราคาสูงขึ้นเนื่องจากปริมาณพลังงานที่ลดลง รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงในการสร้างมลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานสูงสุด และการมีส่วนร่วมในการรักษ์ธรรมชาติให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ในการใช้งาน ที่สมบูรณ์แบบเกิดประโยชน์และความพึงพอใจต่อผู้ขับขี่ได้มากที่สุด จึงมีการคิดค้นรถยนต์ไฮบริดขึ้นจากรุ่นสู่รุ่น
ในช่วงแรกๆประสิทธิภาพการใช้งานของรถยนต์ไฮบริด อาจจะมีข้อกังวล ทั้งเรื่องอายุของแบตเตอรี่ในการใช้งานได้ไม่นานพอ ปัจจัยดังกล่าวโตโยต้า ได้พัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริดให้มีประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการผลิตรถยนต์ Toyota C-HR ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานนี้
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/14/zkB2v2.jpg)
Toyota C-HR เป็น ไฮบริดรุ่นล่าสุด ซึ่งพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของแบตเตอรี่ ที่เป็นแบตเตอรี่ไฮบริด Ni-MH (Nickel-Metal Hydride) ที่มีขนาดเล็กลง เก็บประจุไฟฟ้าได้เร็วและนานขึ้น สามารถจ่ายไฟให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาระบบระบายความร้อนใหม่ ช่วยให้ทนทานอายุการใช้ของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น และประหยัดน้ำมันได้สูงสุด นั้นคือระบบ PCU (Power Control Unit) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ช่วยให้ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี และระบบไฮบริดอีก 5 ปี
นอกจากนี้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องหาที่เสียบปลั๊ก เวลาขับขี่ทางไกลหรือจราจรติดขัด เพียงแค่เติมน้ำมันและขับขี่ในรูปแบบการขับขี่รถยนต์ทั่วไป เมื่อพลังงานในแบตเตอรี่ใกล้หมดลง พลังงานส่วนเกินจากการทำงานของเครื่องยนต์ จะทำหน้าที่ชาร์จพลังงานให้แบตเตอรี่อัตโนมัติ
สำหรับหลายคนที่ยังกังวลในความปลอดภัยของแบตเตอรี่ หรือสงสัยว่าหากตัวรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบนี้ต้องลุยน้ำรอการระบายในเมืองกรุงแล้วจะเป็นอย่างไร ทางโตโยต้าเองได้พัฒนาความปลอดภัยของตัวแบตเตอรี่นี้ให้สามารถลุยน้ำได้ในระดับ 10-30 เซนติเมตร เทียบเท่ารถยนต์ปกติเลยทีเดียว
ใครที่คิดว่ารถยนต์ไฮบริดเครื่องไม่แรง คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะรถยนต์ไฮบริดทำงานโดยผสาน 2 พลังขับเคลื่อนไว้ด้วยกัน ระหว่างพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าและจากเครื่องยนต์เบนซิน โดยมีแบตเตอรี่ส่งพลังงานไฟฟ้าเสริมให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มพลังขับเคลื่อนให้รถยนต์ไฮบริดมีอัตราเร่งที่แรงมากยิ่งขึ้น ตอบสนองได้เร็ว และช่วยให้จังหวะออกตัวไม่ต้องรอรอบเหมือนกับเครื่องยนต์เบนซินปกติ ยิ่งไปกว่านั้น Toyota C-HR ไฮบริดรุ่นใหม่ ล่าสุด ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ไฮบริด ที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด สามารถประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ ลิตร เลยทีเดียว โตโยต้าไฮบริดอาจเป็นอีกทางเลือกที่พร้อมรองรับทุกการขับขี่ของผู้ใช้ ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องของความประหยัด ความทนทาน และความปลอดภัยในการใช้งาน คุณยังได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://thestandard.co/toyota-hybrid-car/