บ้านหรรษา ดอทคอม
ยานยนต์ เทคโนโลยี ชุมชนช่างยนต์ บอร์ดฟรี..สำหรับสมาชิกทั่วไป => เทคนิคยานยนต์ทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Admin™ ที่ 01/พ.ค./2015
-
ความรู้เกี่ยวกับ “ระบบรับน้ำหนักและระบบกันสะเทือน” รถยนต์
(http://www.siaminside.com/wp-content/uploads/2014/06/sp.jpg)
ความรู้เรื่องระบบรับน้ำหนักและระบบกันสะเทือน แบบคานแข็ง(Rigid Suspension) แบบอิสระ(Independent Suspension) ระบบกันสะเทือนอิสระแบบปีกนกคู่(Double Wishbone) ระบบกันสะเทือนอิสระแบบเมคเฟอร์สันสตรัท(MacPherson Strut)…
1. ระบบรองรับน้ำหนักและกันสะเทือน
ระบบรองรับน้ำหนักของรถยนต์จะถูกติดตั้งอยู่ระหว่างตัวถังรถด้านบน และเสื้อเพลาล้อด้านล่าง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อ
รองรับน้ำหนักตัวรถ
รองรับการเต้นขึ้นลงของล้อ
รักษาศูนย์ล้อรถขณะขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ
รักษาสภาพการสัมผัสกันระหว่างล้อกับพื้นผิวถนนและระดับตัวรถกับพื้นถนน
ให้เกิดความคล่องตัวในการบังคับเลี้ยว
รับแรงกระทำตามแนวดิ่ง แนวขวาง และแนวยางของตัวรถได้
(http://www.siaminside.com/wp-content/uploads/2014/06/sp4.jpg)
2. ระบบกันสะเทือน (Suspension System)
จะมีชิ้นส่วนหลัก 2 ชิ้นส่วน คือ สปริงและโช้คอัพ ทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม ตัวสปริงจะทำหน้าที่รับน้ำหนักตัวรถไว้ด้านบนและรองรับน้ำหนักการกระแทกและการเต้นขึ้นลงของเสื้อเพลาเปลี่ยนเป็นคลื่นสั่นสะเทือน ส่วนโช้คอัพจะทำหน้าที่เป็นตัวหน่วงหรือลดการสั่นสะเทือนที่สปริงดูดซับมาจากการเต้นขึ้นลงของเสื้อเพลา ด้วยความหนืดของของเหลวเป็นตัวต้านทานการเต้นของสปริงระบบกันสะเทือน ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักของตัวรถ เครื่องยนต์ ผู้โดยสาร และสิ่งของใดๆ ที่อยู่ในรถ อีกทั้ง ยังช่วยรองรับ แรงสะเทือนจากถนน และยังช่วยทำให้ผู้ขับรถ สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ไปตามทุกสภาพ และความเร็วของถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย อุปกรณ์ รองรับน้ำหนักที่สำคัญ ในระบบกันสะเทือนคือ สปริง (Spring) และโช๊คอัพ (Shock Absorber)
ชนิดของระบบกันสะเทือน
ระบบกันสะเทือนแบบคานแข็ง (Rigid Suspension)
ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ (Independent Suspension)
(http://www.siaminside.com/wp-content/uploads/2014/06/sp1.jpg)
3. ระบบกันสะเทือนแบบคานแข็ง (Rigid Suspension)
คือ แบบดั้งเดิมโดยมากจะพบกับระบบกันเคลื่อนล้อหลัง เพราะจะมีเพลาหมุน (Axle shaft) ต่อออกจากชุดเฟืองท้าย (Differential) ไปสู่ล้อซ้าย และล้อขวาโดยตรง โดยไม่ผ่านข้อต่ออ่อน (Universal Joint) ดังนั้น เฟืองท้าย เพลาขับล้อซ้าย และเพลาขับล้อขวา และบริเวณเพลาขับทั้ง 2 ข้าง จะมีสปริง และโช้คอัพรองรับน้ำหนัก และแรงสะเทือนจากถนน เมื่อล้อซ้ายได้รับแรงสะเทือนใดๆ ก็จะสะท้อนแรงสะเทือนนี้ ไปยังล้ออีกข้างหนึ่งด้วย
(http://www.siaminside.com/wp-content/uploads/2014/06/sp3.jpg)
4. ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ (Independent Suspension)
คือระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาให้แยกหน้าที่ รองรับน้ำหนัก และแรงสะเทือนระหว่างล้อซ้าย และล้อขวาออกจากกัน เมื่อล้อใดล้อหนึ่งตกหลุมหรือกระแทกสิ่งกีดขวาง แรงสะเทือนที่เกิดขึ้น ก็จะกระทำต่อล้อนั้นเสียส่วนใหญ่ และจะส่งแรงสะเทือนนี้ไปสู่ตัวรถ และอุปกรณ์ต่อเนื่องกันให้น้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความนุ่มนวลในห้องโดยสารมากที่สุด
รูปแบบระบบกันสะเทือนอิสระ
- ระบบกันสะเทือนอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone)
- ระบบกันสะเทือนอิสระแบบเมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut)
(http://www.siaminside.com/wp-content/uploads/2014/06/sp5.jpg)
ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone)
ระบบกันสะเทือนแบบนี้ มีส่วนประกอบที่มองดูคล้ายกับปีกนกอยู่ 2 ชิ้น ติดตั้งอยู่ด้านบน และด้านล่างอย่างละ 1 ชิ้น ด้านหนึ่งยึดติดกับโครงรถ อีกด้านหนึ่ง ยึดติดกับข้อบังคับเลี้ยวที่ติดอยู่กับดุมล้อ
ระบบปีกนกคู่ ถูกดัดแปลงไปใช้กับรถยนต์แต่ละรุ่นแตกต่างกันไป บางบริษัทออกแบบระบบ ปีกนกเพื่อเพิ่ม ความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น บางบริษัทออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการทรงตัว ของรถขณะขับขี่หรือเข้าโค้ง การออกแบบของแต่ละบริษัท ก็จะส่งผลให้มีการผลิต ชิ้นส่วนของแขนปีกนกบน และล่าง ในรูปร่างแตกต่างกันไป
(http://www.siaminside.com/wp-content/uploads/2014/06/sp6.jpg)
ระบบกันสะเทือนแบบเมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut)
ระบบกันสะเทือนแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ถูกพัฒนาให้ง่ายขึ้นกว่าระบบปีกนกคู่ คือจะใช้แกนปีกนกด้านล่าง 1 แกน ส่วนด้านบนจะใช้เป็นชุดสตรัท (Strut) เพื่อรับแรงกระแทกบนพื้นถนน ขึ้นมาที่ล้อ ต่อไปยังแกนปีกนกบน+คอยสปริง+โช้คอัพ ไปในตัว
ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ ใช้วิธีนำชุดสตรัท มาเป็นระบบกันสะเทือนอิสระกันมากขึ้น รถยนต์บางรุ่น จะใช้ชุดสตรัท เป็นระบบกันสะเทือนทั้ง 4 ล้อ หรืออาจใช้ชุดสตรัท กับระบบล้อหน้า ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลัง ใช้เป็นแบบอื่นก็มี