TOYOTA HILUX VIGO เกิดไฟเตือนรูปหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นค้างตลอดเวลาโดยเหตุการณ์ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับวิศวกรบริษัท ซึ่งมีผู้ร่วมเดินทางมาทั้งหมด 3 ชีวิต โดยเขาได้เล่าให้ผมฟัง ว่า ระหว่างขับรถลงมาทางใต้ พอขับมาเรื่อย ๆ ถึงประมาณทุ่งสง ก็มีไฟแสดงสถานะเป็นรูปหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง แต่น้ำมันเชื้อเพลิงยังไม่หมดน่ะ เข็มน้ำมันยังอยู่ครึ่งถังอยู่เลย และเครื่องยนต์ก็ยังทำงานปกติ สามารถขับใช้ความเร็วได้สบายๆ
ที่มาของรูป : ขออภัย! คุณไม่สามารถเห็นลิ้งค์ที่โพสต์นี้ได้ กรุณา
สมัครสมาชิก หรือ
เข้าสู่ระบบแต่คนขับ เริ่มจะไม่สบายใจเสียแล้ว และตอนนั้นก็เป็นเวลาช่วงเย็นใกล้ค่ำแล้วด้วย แต่เข้าก็ได้ตัดสินใจ จอดรถเข้าข้างทาง เพื่อตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ยังปกติอยู่หรือไม่ โดยเปิดฝากระโปรงหน้า ปรากฏว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ จึงพยายามหาคู่มือรถ เพื่อจะได้ทราบถึงความหมายของไฟที่แสดงขึ้นมา จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงใกล้หมด ไฟจะแสดงบริเวณใต้เข็มน้ำมันที่บริเวณตัว E แต่ไฟตัวที่มันแสดงตอนนี้ซิแปลกมาก มันคืออะไร
หลังจากที่พยายามหาคู่มือ ปรากฏว่าไม่เจอครับ เอาไงเนี่ย? (ไม่ใช้รถตัวเองซะด้วย) ทันใดนั้นคนขับเค้าก็บังเอิญ เห็นคำอธิบายบริเวณที่บังแดด ด้านคนขับ บนเพดานหลังคา จึงได้เข้าใจว่า มันมีปัญหาในส่วนของไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีน้ำมากเกินไป จนเซ็นเซอร์ดักน้ำ ทำงานขึ้น นั้นคือ สาเหตุที่ทำให้ไฟเตือนโชว์ขึ้นมา แล้วตัวไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ส่วนไหนของตัวรถล่ะ ถ้าคนที่ไม่รู้ก็จบเลยครับ
จึงอยากบอกให้คนที่ใช้รถ พยายามศึกษาสัญลักษณ์ไฟเตือนต่าง ๆ ของรถท่านเองด้วย เนื่องจากเวลาเกิดปัญหาจะได้ทราบก่อนและแก้ไขปัญหาได้ทัน แต่ผมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอ่านคู่มือรถกัน คงคิดว่าขับเป็นแล้วไม่ต้องอ่านก็ได้ ใส่เกียร์แล้วเหยียบคันเร่งก็ไปได้แล้ว ฮาฮ่า ไม่เป็นไรครับเอาเป็นว่าพกคู่มือรถใส่รถไปด้วยก็แล้วกัน เวลาเกิดปัญหาจะได้หยิบมาอ่านได้
กลับมาเข้าเรื่องต่อ ซึ่งวิศวกรคนที่ขับ เขาทราบว่าชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ส่วนไหน แล้วเขาจึงทำการถ่ายน้ำที่ใต้ชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิง มันจะมีน็อตอุดอยู่ ให้หมุนทวนเข็ม จนกว่าจะมีน้ำไหลออกมา อาจจะใช้มือช่วยปั้มด้วยก็ได้ ซึ่งด้านบนของชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีตัวปั้มมืออยู่ เมื่อน้ำไหลออกหมด มีแต่น้ำมันแล้ว ให้หมุนอุด ตามเข็ม จนกว่าน้ำมันจะหยุดไหล แล้วหมุนแน่นพอตึงมือ ก็เป็นอันว่าสำเร็จ
จริง ๆ แล้ว "กรองโซล่า" หรือ "กรองน้ำมันดีเซล" มีหน้าที่หลัก ก็คือ การช่วยกรองสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง หรือเศษตะกอน ต่าง ๆ ที่อยู่ในถังน้ำมัน ไม่ให้ไปทำความเสียหายให้กับปั้มแรงดันสูง ที่จ่ายให้กับหัวฉีด และตัวหัวฉีดเองด้วย เพราะถ้ามีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเข้าไป ก็จะทำให้เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ เร่งไม่ขึ้น หรืออาจเกิดอาการสั่นได้ และชุดกรองน้ำมันดีเซลมีส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือ มีปั้มมือ และส่วนที่กักเก็บน้ำที่มาตามน้ำมันเชื้อเพลิงเราไว้ พร้อมกับลูกลอยเพื่อบอกระดับน้ำที่สูงเกินกว่าจะรับได้
ส่วนสาเหตุของสิ่งสกปรก ก็อาจจะมาจากสถานที่จำหน่ายน้ำมันเอง จ่ายน้ำมันที่ไม่สะอาดมาให้เรา หรือไม่ก็เกิดจากคราบสนิมที่ก้นถังน้ำมัน ซึ่งถ้าเราใช้น้ำมันก้นถัง ก็คือเข็มน้ำมันตกจนจะหมดแล้วยังไม่เติมอีก ดึงดันที่จะขับไป สิ่งสกปรกนั้นก็โดนดูดขึ้นมาติดที่ไส้กรองได้ และสาเหตุที่เกิดสนิมก็อาจเกิดจากการเติมน้ำมันไม่เคยเต็มถังเลย ส่วนด้านบนถังน้ำมันไม่เคยโดนน้ำมันเลย ก็มันเป็นเหล็กอะน่ะ มันก็น้อยใจ ขึ้นสนิมเอาซะเลย แล้วสนิมนั้นแหละครับจะกลับมากวนใจเรา
ที่มาของรูป : ขออภัย! คุณไม่สามารถเห็นลิ้งค์ที่โพสต์นี้ได้ กรุณา
สมัครสมาชิก หรือ
เข้าสู่ระบบจัดโครงสร้างภายใน ชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เห็นกันเลยครับ เรามาดูส่วนประกอบกันเลยครับ
เป็นปั้มมือ สามารถกดลงเพื่อปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงมาจากถังเองได้ คงจะสงสัยน่ะครับว่าจะมีไว้ทำไม? แล้วจะใช้งานเมื่อไหร่? (อ่านต่อน่ะครับ)
ไส้กรองน้ำมันดีเซล ไม่ได้ใช้ตลอดชีพ น่ะครับ มีระยะเวลาเปลี่ยนอยู่ในคู่มือรถ หรืออาจจะเปลี่ยนด้วยความรู้สึกก็ได้
หม้อดัดน้ำ จะอยู่ด้านล่าง ตามหลักวิทยาศาสตร์เลย "น้ำมันเบากว่าน้ำ" เมื่อมีน้ำเข้ามาก็จะตกลงไปอยู่ด้านล่างของชุดกรอง และจะเห็นเป็นก้านขึ้นมาตรงกลาง นั้นคือลูกลอยครับ ถ้ามันลอยขึ้นสูงจนถึงพิกัด มันจะมีไฟเตือนขึ้นมาครับ เป็นสาเหตุของบันทึกนี้ครับ
เมื่อวิศวกรท่านนั้นถ่ายน้ำจากใต้ชุดกรองน้ำมัน แล้วปั้มโยกด้วยมือ บนชุดกรอง จนน้ำออกไปพร้อมน้ำมันดีเซล ซะมากแล้ว มากจนเขาคิดว่า น้ำน่าจะหมดไปแล้วน่ะ เมื่อดำเนินการเสร็จ มาดูที่หน้าปัดเรือนไมล์ ไฟเตือนยังขึ้นอยู่เลย อ้าวทำไงเนี่ย? คิด ๆ ๆ มันจะขับได้มั้ยเนี่ย ลองดูดีกว่า ปรากฏว่ารถขับได้ปกติ แต่เขาไม่กล้าขับเร็วมาก กลัวเครื่องยนต์พัง ขับไปได้หลายกิโลแล้ว เขาก็ยังไม่สบายใจว่าที่ไฟเตือนยังโชว์อยู่ มันอาจจะมีน้ำอยู่อีกหรือป่าว แ่ต่ขณะนั้นมันก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้ว มืดแล้วครับ แล้วระหว่างทางแถว ๆ ก็มืดด้วย ไม่ค่อยมีแสงไฟ จึงขับไปเรื่อย ๆ สังเกตจุดที่เหมาะ ๆ มีเสียงไฟ ปั้มน้ำมันก็ไม่ถึงซะที
เมื่อเขาได้จุดจอดรถ เขาก็ลงมาดำิเนินการถ่ายน้ำอีก ถ่ายจนน้ำมันเชื้อเพลิงออกไปเยอะมาก จนคิดถึงเจ้านาย(เจ้าของบริษัท) แง่ว ... หลังจากนั้นเขาก็มาดูที่หน้าปัด ปรากฏว่าไฟเตือนยังไม่ดับอีก เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขับมาเรื่อย ๆ แบบช้า ๆ แล้วเขาก็จอดถ่ายน้ำไป ขับไป จนดึกมากแล้ว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ระหว่างนั้นเขาก็ส่งข้อความมาหาผม ว่า "ตอนเช้าให้ช่วยมารับที่โรงแรมด้วย รถมีปัญหา" ตอนนั้นผมนอนหลับไปแล้วจึงไม่ได้ยินเสียงข้อความเข้า ปรากฏว่าเขาก็ขับมาเรื่อย ๆ แบบช้า จนถึงหาดใหญ่ แล้วก็เขาพักที่โรงแรมเรียบร้อย จากนั้นเข้าก็ส่งข้อความมาหาผมอีกว่า "ตอนเช้าไม่ต้องมารับแล้ว รถยังพอขับได้อยู่"
ตอนเช้าผมก็เห็นข้อความที่โทรศัพท์ แล้วมาดูเวลาของข้อความสุดท้ายตอน เป็นเวลา 02.00 น. (ตีสอง) ดึกใช้ได้ จึงโทรไปสอบถามดู เขาก็บอกว่าเดี่ยวเจอกันที่ทำงานเลย รถยังขับได้อยู่ แต่ก็งงว่าทำไมไฟเตือนยังขึ้นอยู่ ระหว่างที่มาดำเนินการติดตั้งเครื่องมืออยู่ ก็ได้สอบถามถึงศูนย์บริการโตโยต้า ผมก็แนะนำเส้นทางไปเรียบร้อย เขาก็คิดอยู่ว่าจะไปดีมั้ย หรือจะไปเข้าที่ศูนย์ประจำที่ กทม. เพราะว่ารถยังขับได้ปกติแล้ว แค่ว่าทำไมไฟถึงยังโชว์อยู่
ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับ กทม. เขาก็หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตถึงปัญหาของไฟเตือนที่เป็นรูปเหมือนหัวจ่ายน้ำมัน ว่าทำไมถึงยังโชว์อยู่ตลอด ปรากฏว่าเขาพบข้อมูลดังกล่าว ซึ่งมีคนที่เคยเจอเหตุการณ์นี้มาแนะนำวิธีการแก้ไขให้ เป็นขั้นตอนดังนี้ครับ เผื่อจะได้ช่วยเพื่อนสมาชิกในวง Share.psu ของเราได้
วิธีลบไฟเตือนกรองน้ำมันดีเซล TOYOTA HILUX VIGO บิดกุญแจ ดับเครื่อง OFF
ดึงปลั๊ก หรือขั้วเซ็นเซอร์ ที่ชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ออก
บิดกุญแจ ON
แล้วก็ไปเสียบ ปลั๊กกลับ ภายใน 1 นาที
ไฟเตือนจะดับ ไปเองครับ
วิธีง่าย ๆ ครับ เรียกว่า การ Reset ระบบการเตือนของระบบกรองน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากกล่องควบคุมรับคำสั่งจากลูกลอยที่หม้อดัดน้ำ แล้วไปสั่งงานให้ไฟเตือนแสดงอย่างที่เห็น
และสุดท้ายครับ จะเล่าให้ฟังว่า ส่วนที่เป็นปั้มมือ ที่ชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถช่วยผมได้ครับ เรื่องก็มีอยู่ว่า วันหนึ่งผมรีบที่จะไปธุระ แต่เห็นแล้วว่าน้ำมันจะหมดถังแล้ว ซึ่งสังเกตได้จากเข็มวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ก็คิดว่าน่าจะยังพอขับได้ พอไปถึงที่หมาย ก็ดับเครื่องยนต์ แล้วก็ไปทำธุระประมาณ 15 นาที เมื่อเสร็จธุระก็กลับมาที่รถ สตาร์ทเครื่องยนต์ ปรากฏว่าเครื่องยนต์ไม่ติดครับ สตาร์ทอย่างไรก็ไม่ติด จึงหยุด เพราะกลัวแบตเตอรี่จะหมดไฟ ตามประสบการณ์ผมน่ะ ฟังจากเสียงแล้วน่าจะน้ำมันหมด ฮ่าฮ่า แล้วรถก็อยู่ในป่าเขาเสียด้วย คงไม่มีน้ำมันขาย แย่แล้วซิ แถมโดนบิดาบ่นอีกต่างหาก ว่าทำไมไม่เติมมันมัน ขับยังไง
นึกขึ้นมาได้ สงสัยน้ำมัน เหลือน้อยมันจึงมีอากาศเข้าแบบ ว่าน้ำมันขาดช่วงจึงทำให้น้ำมันไหลกลับมายังถัง ก็เลยเปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วทำการปั้มมือ ที่ชุดกรองน้ำมันเชื้อเพลิง โยกไปหลาย ๆ ครั้ง จนกว่าจะตึงมือ แบบแน่น ๆ แต่ถ้าปั้มไปแล้วไม่ตึงมือเลย ก็แสดงว่าหมดจริง ๆ ครับ หลังจากนั้นก็ไปสตาร์ทเครื่องยนต์ ติดครับทีเดียว เลยรีบขับกลับไปเติมน้ำมันเลยเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันใกล้หมด ควรจะเติมก่อน น่ะครับ
ลิ้งค์หัวข้อ: บ้านหรรษา ดอมคอม/topic/5011
ประสบการณ์งานซ่อม
